วิธีเพิ่มราคาค่าบริการ/สินค้า… เราจะตั้งราคาค่าความสามารถของเราไว้ที่ราคาเท่าไหร่ดี?
โดยทั่วไปคุณอาจจะตั้งราคาค่าสินค้าและบริการจากราคากลางๆที่คนอื่นๆตั้งกัน คุณอาจจะลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เนทหรือร้านอื่นๆว่าเขาตั้งราคากันอย่างไรและคุณก็หาราคากลางๆใช่หรือไม่? หรือว่าคุณใช้วิธีอะไรตั้งราคาค่าบริการของคุณอยู่?
แล้วตั้งราคาแบบนี้มีปัญหาอย่างไร? คุณกำลังตั้งราคาขึ้นกับราคาของคนอื่นอยู่ใช่ไหม? แล้วคุณค่าจริงๆของบริการของคุณหละ? คุณได้นำมาพิจารณาหรือยัง? คุณให้คุณค่าอะไรกับลูกค้าบ้างด้วยบริการหรือสินค้าของคุณ? ราคาจะขึ้นกับคุณค่าที่คุณให้กับลูกค้าได้และความต้องการของลูกค้า โดยปกติถ้าคุณสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ด้วยต้นทุนที่ไม่มาก อย่างเช่น เฟสบุ๊คแอดที่คุณยิงโฆษณาไปแล้วคุณได้กำไรกลับมา 5-10 เท่า คุณจะยิ่งลงแอดเพิ่มหรือไม่?
แล้วบริการหรือสินค้าของคุณให้คุณค่ากับลูกค้าแค่ไหนอย่างไร? เพราะฉะนั้นเรื่องที่สำคัญก็คือคุณเข้าใจคุณค่าของสินค้าและบริการของคุณชัดเจนหรือยัง? และคุณนำเสนอสินค้าและบริการของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องหรือยัง? คุณค่าของบริการและสินค้าของคุณสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มไหนได้อีกหรือไม่?
สินค้าและบริการของคุณอยู่ใน Blue Ocean หรือ Red Ocean ที่มีการแข่งขันกันสูงซึ่งทำให้ทำราคาสูงไม่ได้ เพราะฉะนั้นคุณควรจะหากลุ่ม niche ให้เจอหรือกลุ่มเฉพาะที่คุณจะนำเสนอบริการหรือสินค้าของคุณที่สามารถให้คุณค่ากับลูกค้ากลุ่มนั้นได้ และคุณให้อะไรกับลูกค้าต่างไปจากผู้ขาย/ผู้ให้บริการคนอื่นๆ ไม่ใช่แค่ว่าคุณบอกว่าคุณขายหรือให้บริการอะไรอยู่บ้าง แต่เป็นว่าจะดีกว่าไหมถ้าเราเสนอว่าบริการหรือสินค้าจะทำให้ลูกค้าได้ผลอะไรดีขึ้นบ้าง จะแก้ปัญหาอะไรให้เขาได้บ้าง หรือจะทำให้อะไรในธุรกิจเขาดีขึ้น หรือเขาได้กำไรมากขึ้น ลูกค้าของธุรกิจมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งอะไรถ้าลูกค้าไม่ใช้สินค้าหรือบริการเราแล้วจะทำให้เขาเสียโอกาส เสียกำไร เสียเวลาไป เราจึงสามารถที่จะตั้งราคาตามปัจจัยเหล่านั้นได้ เพราะการสูญเสียจะไม่ใช่
ดังนั้นการที่เราสามารถสรุปคุณค่าของบริการ/สินค้าของเราออกมาได้แล้วสามารถนำเสนอให้ลูกค้าเห็นได้ว่าเขาจะได้อะไรจากสินค้าหรือบริการของเราและจะเสียอะไรไปหากไม่ใช้สินค้าและบริการของเราได้ชัดเจนแล้วละก็ เราจะสามารถตั้งราคาขายได้สูงขึ้นแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นการสัมมนาโดยปกติอาจจะจัดเป็นคอร์สกว้างๆเช่นการให้ความรู้ในการโปรโมทเฟสบุ๊คสำหรับคนทั่วไป ซึ่งอาจจะกำหนดในรายละเอียดไม่ได้ดีเท่าการที่เราสอนผู้ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ต้องการโปรโมทร้านทางเฟสบุ๊คโดยเฉพาะซึ่งวิธีการแตกต่างจากการโปรโมททั่วไปและลงรายละเอียดเจาะลึกเฉพาะทางมากกว่า ซึ่งอาจจะมีคอร์สเสริมได้อีกหลายคอร์สเช่นคอร์สการตกแต่งเพจร้าน คอร์สการจัดมุมกล้องเวลาถ่ายรูปอาหารให้น่ากิน ฯลฯ ซึ่งถ้าเรานำเสนอในลักษณะ Testimonial ได้ว่าผู้ที่เคยเข้าคอร์สนี้สามารถเพิ่มยอดขายได้ 2-3 เท่าในเวลา 1 เดือนก็จะทำให้เราสามารถตั้งราคาได้สูงขึ้น ถ้าเราทำให้ลูกค้าเห็นถึงความแตกต่างของบริการเราเทียบกับเจ้าอื่นได้ก็จะทำให้เราสามารถตั้งราคาขายได้สูงขึ้นแน่นอน
“หากคุณสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าตัวลูกค้าเองแล้วคุณจะสามารถขายสินค้า/บริการให้ลูกค้าในราคาที่คุณต้องการได้อย่างไม่ยาก”
ถ้าหากใครมีอะไรอยากสอบถามก็สามารถคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยครับ ยินดีตอบคำถามครับ